• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

🦖การเจาะสำรวจชั้นดิน (Soil Boring) ⚡และ📌 การสำรวจดินในงานก่อสร้าง✨

Started by Jenny937, August 01, 2024, 12:57:09 PM

Previous topic - Next topic

Jenny937

การเจาะสำรวจดิน 🛒คือกรรมวิธีการเจาะดิน, การเก็บตัวอย่าง, การทดสอบดินในสนาม, การหยั่งลึกชั้นดิน 📢หรือใช้เทคนิคอื่น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลทางแนวดิ่งของชั้นดิน และลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางแนวราบ เพียงพอในการที่จะใช้ออกแบบ ✅หรือการศึกษาเชิงปฐพีกลศาสตร์ การเจาะสำรวจดินต้องพิจารณาการใช้งาน เช่น การสร้างถนนหรือสนามบิน การสำรวจจะเป็นการเจาะตื้น แต่งานฐานรากเสาเข็มต้องสำรวจลงไปลึกกว่าปลายเข็มที่คาดว่าจะใช้งาน ⚡สำหรับในบทนี้จะพูดถึงการเจาะสำรวจดินโดยวิธีเบื้องต้น โดยใช้ สว่านมือ, การเจาะล้าง ✨และการเก็บตัวอย่างดินโดยใช้กระบอกเปลือกบาง (Thin Walled Tube)📢

📌📌📌เจาะสำรวจดินก่อนการก่อสร้างเพื่ออะไร?🎯🎯🎯

1. เพื่อให้รู้ประเภทและชนิดของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง ⚡และรู้ลักษณะเชิงกลของดิน ช่วยให้เราเลือกฐานรากได้อย่างถูกต้อง ⚡เช่น หากดินแข็งพออาจจะเลือกใช้เป็นฐานแผ่แทน⚡

2. การรู้ความลึกของชั้นดินแข็ง 🎯ช่วยในการคำนวณกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม✨ เลือกขนาดและความยาวเสาเข็มที่ต้องใช้ได้👉

3. การลดความเสี่ยงในการตอกเสาเข็ม 📢เพราะหากเจอชั้นดินแข็ง แต่ไม่หนาที่ชั้นความลึกไม่มาก 🛒อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าถึงชั้นดินแข็ง ✅ทั้งที่จริง ๆ สามารถตอกทะลุลงไปได้อีก 🦖หากพื้นที่สำรวจมีความผันผวนของดินสูง วิศวกรควรสั่งให้เจาะสำรวจดินหลาย ๆ หลุมให้เพียงพอ เพื่อเปรียบเทียบ ✅เพราะอาจต้องออกแบบฐานรากหลายแบบ สำหรับการก่อสร้างอาคารในพื้นที่นั้น🌏



🌏🌏🌏วิธีเจาะสำรวจชั้นดิน (Soil Boring)🌏🌏🌏

การเจาะสำรวจชั้นดิน📌คือการเจาะหลุมลงไปในดินเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของชั้นดิน✨และเก็บตัวอย่างดินมาทำการทดสอบคุณสมบัติในห้องปฏิบัติการ🥇โดยทั่วไปการสำรวจชั้นดินที่ใช้มากในประเทศไทย 👉ได้แก่

1. การใช้สว่านมือ (Hand Auger) 🦖เป็นการเจาะด้วยแรงคน โดยใช้เครื่องมือสว่านมือและแท่งเจาะดังรูปด้านล่าง 🎯โดยที่ก้านเจาะยาวประมาณ 1 เมตร สามารถต่อเพิ่มความยาวได้หลายท่อน เมื่อกดและหมุนก้านจนดินเต็มสว่านแล้วดึงขึ้นเพื่อนำดินออก 📢ดินส่วนนี้สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติทางวิศวกรรมบางประเภทได้ 🛒การเจาะด้วยสว่านมืออาจทำได้ลึกถึง 6–10 เมตร ในดินเหนียวแข็งปานกลาง 📌ข้อเสียของวิธีการเจาะนี้คือไม่สามารถเก็บตัวอย่างดินเพื่อทดสอบความแข็งแรงหรือการทรุดตัวได้เนื่องจากโครงสร้างดินถูกทำลายโดยสว่าน👉

2. การฉีดล้างดิน 🛒คือการใช้แรงดันน้ำฉีดเจาะทำลายโครงสร้างดินเพื่อให้เกิดหลุม และเกิดการรบกวนดินด้านล่างน้อยที่สุด 🥇วิธีการเจาะเริ่มโดยการเจาะชั้นดินโดยการสูบน้ำผ่านก้านเจาะลงไปที่หัวฉีดที่ก้นหลุมพร้อม ๆ กับกระแทกหรือหมุนของหัวเจาะ ⚡ทำให้ดินก้นหลุมหลุดไหลตามน้ำขึ้นมาบนผิวดินลงในอ่างตกตะกอนแล้วสูบน้ำที่ใสนำไปใช้ได้อีก 🥇ดังรูปด้านล่าง วิธีนี้ต้องอาศัยสามขา (Tripod) เครื่องกว้าน (Motor และ Catch head) 📌และเครื่องสูบน้ำ ในกรณีที่เจาะในชั้นของดินอ่อน จะต้องใช้ปลอกกันดินพัง (Casing)ด้วย โดยต่อเป็นท่อน ๆ ✅และเมื่อเจาะถึงชั้นทรายจะไหลเข้ามาในหลุมจึงจำเป็นต้องผสมสารเบนโทไนต์ (Bentonite) ลงไปกับน้ำ 🎯เนื่องจากเบนโทไนต์คือแร่ชนิด มอนต์มอริลโลไนต์ มีความสามารถในการดูดน้ำดีและพองตัวได้มาก 🎯ทำให้ความหนาแน่นของน้ำภายในหลุมมากกว่าน้ำในชั้นทราย👉 น้ำจึงไม่ไหลเข้าในหลุม การเจาะแบบนี้สามารถหยุดเพื่อเก็บตัวอย่างดินได้ตามระยะที่กำหนด 📢การเจาะสำรวจในกรุงเทพฯ สำหรับการก่อสร้างอาคารจะอยู่ที่ความลึก 30-80 เมตร ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของอาคาร🛒