สังกัดเดิม โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง

[Fern751]

สังกัดเดิม โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง ข้างหลังประกาศปลดจากพรีเซ็นเตอร์ จนถึงมิได้ทำผิดสัญญา ย้ำเป็นเรื่องในสมัยก่อน-ไม่ขัดกับกฎหมาย

วันที่ 20 เม.ย.2566 ที่ ชั้น21 ตึกจีเอ็มเอ็มเอ็งรมมี่ คุณสุจรรยา วิลเลกัส ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด(มหาชน) ตัวแทน บริษัท จีเอ็มเอ็มโทรทัศน์ จำกัด แจกแจงกรณีฟ้องฟ้องร้องคดี บริษัท UGO Nutrition จำกัด ข้างหลังบริษัทดังกล่าวมาแล้วข้างต้นร่อนหนังสือประกาศปลด โอม ภวัต จิตต์สว่างดี นักแสดงในสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี ยุติหน้าที่หน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์

สืบเนื่องจากที่ผ่านมา โอม ภวัต ดารานำชายซีรีส์ดัง เป็นใจความสำคัญถูกกล่าวถึงในโลกออนไลน์เกี่ยวกับความประพฤติปฏิบัติในอดีต โดยเจ้าตัวได้ออกมายอมรับว่าเคยบูลลี่แล้วก็แกล้งเพื่อนที่เป็นออทิสติก พร้อมด้วยได้ขอโทษ รู้สึกผิด รวมทั้งรู้สึกเศร้า เห็นด้วยว่าเรื่องตอนนั้นเป็นบทเรียนราคาสูง ซึ่งพากเพียรเปลี่ยนแปลงตัวให้ดีขึ้นมาตลอด

ถัดมาแบรนด์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วได้ร่อนหนังสือประกาศปลดพระเอกชายหนุ่ม โดยมีเนื้อหาประเด็นหลักว่า "ประกาศการยุติหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ให้กับแบรนด์ UGO Nutrition จากเรื่องของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ที่เป็นใจความสำคัญในโลกออนไลน์ตอนหลายเดือนล่วงมาแล้ว ทางบริษัท UGO Nutrition ไม่เคยนอนใจ และก็ได้เป็นฝ่ายติดต่อสังกัดเดิมของนักแสดงอย่างจริงจังหลายที แต่ต้นขึ้นตรงต่อละเลยต่อสิ่งที่บริษัทให้ความใส่ใจตลอดมา"

"UGO Nutrition ให้ความใส่ใจกับความรัก ค่าความเท่าเทียม เกียรติยศความเป็นมนุษย์ รวมทั้งความรับผิดชอบพวกเราจึงตัดสินใจยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี เมื่อวันที่ 12 เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด" ตามที่เสนอข่าวสารไปแล้วโดย คุณสุจรรยา กล่าวว่า "ที่มาในวันนี้ก็เพราะเหตุว่าในกรณีที่ทางบริษัท UGO Nutrition จำกัด ได้มีประกาศเลิกหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี โดยที่ไม่มีเหตุผลอันควรในการที่เลิกหน้าที่พรีเซ็นเตอร์อันนั้น รวมถึงทางจีเอ็มเอ็มโทรทัศน์ไม่ได้มีการผิดสัญญาหรือผิดกติกาอะไรก็ตามกับทางบริษัท UGO ซึ่งการที่ UGO ออกประกาศลักษณะอย่างนั้นทำให้บริษัทแล้วก็นักแสดงก็คือคุณโอม ได้รับความย่ำแย่ เสียหายความโด่งดัง"



"นับจากมีกรณีเกี่ยวโยงคุณโอมในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องในอดีตกาลของคุณโอมในวัยเด็ก เป็นการปฏิบัติที่ไม่ได้ขัดกับกฎหมายนะคะ จะต้องบอกแบบนี้ แล้วทางบริษัทเองไม่เคยละเลย เราไม่เคยนิ่ง เรามีการติดต่อเจรจากับทาง UGO มาตลอด มีการสนทนาเพื่อหากติการ่วมกัน"

"เราเจรจากันมาหลายหน จนถึงวันก่อนที่ UGO จะมีประกาศตัวนั้นออกมาด้วย ด้วยเหตุนี้การที่ UGO มีประกาศเลิกบทบาทพรีเซ็นเตอร์ออกมา ทางบริษัทจีเอ็มเอ็มโทรทัศน์ได้รับความทรุดโทรม ทางจีเอ็มเอ็มโทรทัศน์และก็นักแสดงเลยจะต้องขอความเป็นธรรมในกรณีนี้ เพื่อรักษาชื่อเสียงและเกียรติของบริษัท รวมทั้งนักแสดง โดยพวกเราอาจต้องขอพึ่งทางขั้นตอนการของศาล เพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิ์รวมทั้งความเสื่อมโทรมในเรื่องของเกียรติศักดิ์ของบริษัท และก็ศิลปินต่อไปจ้ะ"

เป็นได้ไหมว่า จากกระแสข่าวที่เกิดสังกัดโอมก่อให้เกิดผลเสียกับทางแบรนด์ จึงเป็นเหตุให้ตกลงใจยุติบทบาทการเป็นพรีเซ็นเตอร์ แม้สิ่งที่โอมทำจะไม่ผิดกฎหมาย แม้กระนั้นบางทีก็อาจจะผิดในด้านของคุณธรรม? "อันนี้ทางพวกเราอาจจะตอบมิได้ คงจะต้องถามทาง UGO จ้ะ แต่ว่าในข้อจำกัดสัญญามิได้มีเจาะจงเกี่ยวกับหัวข้อนี้เอาไว้ เวลานี้ทางพวกเราปฏิบัติการฟ้องไปแล้ว ยื่นฟ้องละเมิดค่าปรับ ส่วนจำนวนเงินที่ฟ้องไป อันนี้คงพูดไม่ได้เพราะว่าเป็นข้อมูลในคดี"

แม้ทาง UGO ติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย? "จริงๆมันอยู่ในกรรมวิธีการของทางศาล ยังไงทางคู่ความอีกฝั่งหนึ่งเขาย่อมจำเป็นต้องได้รับคำฟ้องอยู่แล้วค่ะ กรรมวิธีการทางศาลจะต้องเจอกันอยู่แล้ว ถามคำถามว่านอกรอบไม่มีแล้วใช่ไหม มันยังตอบมิได้ เรายังไม่ทราบ เพราะเหตุว่าเรายังไม่ได้รับการติดต่อมาจ้ะ"

การที่ตกลงใจฟ้องเป็นเพราะทางนั้นเขาร่อนจดหมายออกมาใช่ไหม? "เขาไม่ได้ร่อนจดหมายนะคะ อยู่ดีๆเขาก็ประกาศ ในขณะที่พวกเราพูดจากันตลอดบ่อยมา จนก่อนวันประกาศพวกเราก็ยังมีการคุยกัน แม้กระนั้นอยู่ดีๆเขาก็ประกาศ ซึ่งทางพวกเราไม่รู้จ้ะ"

ภายหลังที่เขาประกาศไปแล้ว บริษัทได้รับผลกระทบเยอะแยะไหม? "ก็จากที่สื่อออกข่าวก็ส่งผลเสียกับกิตติศัพท์ของน้องและบริษัทค่ะ (จากดราม่านี้ยังส่งผลกระทบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆหรืองานอื่นๆของโอมอีกไหม?) เดี๋ยวนี้ยังไม่มีผลกระทบค่ะ"

มองกระแสดราม่าของโอมอย่างไร เพราะผู้คนจำนวนมากมองว่าบริษัทไม่ได้ออกมา Take Action อะไรเลย? "ทางบริษัทมองว่ามันเกิดเรื่องที่เกิดในอดีตกาลและเกิดเรื่องในวัยเด็ก โดยทางสถานศึกษาก็ได้ลงอาญาตามกฎเกณฑ์ของโรงเรียน เขาได้รับการลงอาญาไปแล้ว น้องเองก็ได้ขออภัยไปแล้ว และก็มันไม่ใช่เกิดเรื่องที่กระทำผิดต่อข้อบังคับว่ากันแบบนั้นเถิด โดยเหตุนี้เราไม่ได้นิ่งเฉย แม้กระนั้นนี่คือเหตุผลอย่างที่กล่าวว่าเป็นเรื่องในสมัยก่อน แล้วก็เขาได้รับการลงอาญาตามวัยของเขา คือในเวลานั้นเขายังเด็กอยู่"

แต่คนก็ยังขุดหัวข้อนี้ออกมาอีก ด้วยเหตุว่าต้องการให้บริษัทออกมากล่าวบ้าง? "เป็นอันนี้รู้สึกว่าในด้านของคนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์พวกเราคงห้ามมิได้ว่าคนไหนกันแน่จะคิดยังไง แม้กระนั้นในแง่ของบริษัทมองดูที่ความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ความเป็นคนจ้ะ คือมันจำต้องดูจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมากกว่าที่จะไปตัดสินตามกระแสสื่อสังคมค่ะ"

ในช่วงเวลานี้ภาวะจิตใจของโอมเป็นยังไงบ้าง? "ก็อาจไม่ดีหรอกจ้ะ (โอมโดนจู่โจมในโซเชียลมาก เขามาขอให้ดูแลเรื่องข้อบังคับไหม?) อันนี้ยังไม่รู้เรื่องนะคะ เพราะถ้าหากพวกเราจะดูก็อาจจะเป็นในแง่ของเรื่องการปฏิบัติที่ฝ่าฝืนหรือขัดต่อข้อบังคับ ฝ่าฝืนสิทธิของน้อง เราถึงจะมองจ้ะ"

การที่บริษัทยื่นฟ้องทางแบรนด์นั้น กลัวคนจะเห็นว่าค่ายคุ้มครองปกป้องโอมเหลือเกินไหม? "จำเป็นต้องพูดว่าอันนี้เป็นเรื่องของเรื่องจริงและคือเรื่องของธุรกิจนะคะ มันเกิดขึ้นจริง อย่างที่โล่งแจ้งว่าเราไม่ได้เป็นข้างเลิกการเป็นพรีเซ็นเตอร์ ด้วยเหตุดังกล่าวอันนี้ก็ขึ้นกับกระแสสังคมจะวินิจฉัยจากความจริงที่เกิดขึ้นจ้ะ"
โอม ภวัต
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13731/