7 วิธีต่อกรกับ ความกดดัน แบบคนฉลาดหลักแหลม

[Jessicas]

แรงกดดัน ส่วนใหญ่แล้วบางทีอาจจะไม่ได้มาจากคนอื่น แต่ว่ามันชอบเกิดขึ้นเพราะเหตุว่าตัวคุณเอง ด้วยหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ หน้าที่ของสังคมต่างๆทำให้คุณจะต้องวิตกกังวลและก็กลัวว่าจะปฏิบัติภารกิจออกมาได้ไม่ดีไหมเสร็จ

ควรเป็นลูกที่ดีของแม่ เป็นพี่สาวที่คอยดูแลน้องๆเป็นภรรย าที่น่ารักน่าเอ็นดู รวมทั้งเป็นหัวหน้าทีมในที่ทำงาน ความจำเป็นทุกอย่ างทั้งยังเรื่องเวลา เงิน รวมทั้งความรับผิดชอบที่ต้องมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวัน อาจก่อให้คุณบีบคั้นตัวเองจนถึงไม่เคยรู้เ นื้ อ รู้ตัว! แต่ว่าพวกเรามีวิธีดีๆมาให้คุณได้ลองทำกัน เพื่อคุณจัดการกับมันแล้วก็ก้าวไปข้างหน้าได้อย่ างมั่นหัวใจ

1.รู้ตัวเองเมื่อรู้สึกกดดัน

ทำงานมากๆแล้วรู้สึกไม่สบายใจ หายใจเร็ว วิงเวียน หัวร้อน แล้วก็ระเบิดลง ตู้ม! หลายๆคนมักจะรู้สึกกดดันโดยที่ไม่รู้ตัว แต่จงรู้ไว้ว่าถ้าหากว่าคุณเกิดอาการกลุ่มนี้ขึ้นเมื่อใด

คุณก็ตกอยู่ในภาวการณ์กดดันซะแล้วล่ะ แถมถ้าหากไม่รีบปรับแต่ง อาจจะทำให้เกิดผลเสียกับตัวคุณ อาทิเช่น ป่ ว ย บ่อยขึ้น ป ว ดปวดเมื่อย ท้องผูก ดำเนินการได้ไม่สุดกำลัง รับประทานมากหรือไม่พอ ความยินดีในกามลดลดน้อยลง

2.รู้ที่มาของแรงกดดัน

เมื่อรู้แล้วว่าตนเองรู้สึกกดดัน ต่อมาคือจำต้องเจาะจงให้ได้ว่าที่มาของแรงกดดันนี้เป็นอย่างไร เนื่องจากเมื่อตอนนี้รู้แล้วเราบางทีก็อาจจะเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้กลายเป็นแง่ดีได้

ต้นเหตุบางครั้งอาจจะเป็นงานของคุณที่พึ่งจะส่งหัวหน้าไปแต่กลับโดนแก้มามากมาย หรืออาจจะเกิดจากตัวคุณเองที่ต้องการเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ไม่ยินยอมให้แม้กระทั้งเรื่องหมูๆๆน้อยๆบกพร่อง

3.หาวิธีที่แก้ไขปัญหาในสิ่งที่คุณควบคุมได้

คุณจำต้องแยกให้ออกว่าปัญหาไหน "สามารถปรับปรุงแก้ไขได้" และก็ปัญหาไหน "ไม่สามาถปรับปรุงแก้ไขได้" รวมทั้งให้เริ่มลิสต์ปัญหาที่ตัวคุณสามารถคลี่คลายได้รวมทั้งจัดแจงกับมัน

ด้วยการผลิตตัวเลือกที่ใช้เพื่อการแก้ไขปัญหาแต่ละอย่ าง วางแผน อย่ างถ้วนถี่และประเมินตนเองว่าคุณพึงพอใจกับมันหรือเปล่า ถ้าไม่พอใจ ก็กลับไปที่ตัวเลือกแล้วก็วางแผนให้ดีอีกรอบ

4.จัดลำดับความสำคัญของงาน

คนไม่ใช่น้อยถูกใจคิดว่า ยิ่งปฏิบัติงานให้ได้มากเท่าไรก็ยิ่งดี แต่นั่นก็จะยิ่งทำให้เรารู้สึกบีบคั้นได้ง่ายๆกระบวนการจัดแจงกับตัวคุณเองกล้วยๆก็คือจำเป็นต้องเรียงลำดับจุดสำคัญ

ของงานหรือกิจกรรมต่างๆว่าควรทำอะไรเสร็จหลังหรือก่อน แล้วก็ย่อยออกมาเป็นขั้นตอนเล็กๆนอกเหนือจากการที่จะช่วยให้เป็นระบบระเบียบปฏิบัติมากเพิ่มขึ้นแล้วหลังจากนั้นก็ยังช่วยให้พวกเราไม่ทำงานหนักเหลือเกินอีกด้วยล่ะ

5.ฝึกฝนมอบหมายงานให้ผู้อื่น

คนที่บีบคั้นได้ง่ายมักจะเป็นคนที่ชอบความ perfect และจะเอางานทุกอย่ างมากองไว้บนหัวตนเอง พย าย ามควบคุมทุกอย่ าง ลองมอบงานเล็กๆในตารางงานของคุณให้คนที่พร้อม

โดยบอกรายละเอียดตามที่คุณอยากอย่ างกระจ่างแจ้ง การมอบงานให้คนอื่นๆ ทำให้ท่านสามารถดำเนินการได้อย่ างดี แม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่มีความเ ค รี ย ด สูง โดยไม่เสียมาตรฐานของตัวเองด้วย

6.ลองพูดว่า "ไม่" มองบ้ า ง

ชีวิตบางคนขึ้นอยู่กับความเกรงใจบุคคลอื่นมากเกินความจำเป็นจนกระทั่งตัวเองก็เกือบจะไม่ไหวแล้ว ไม่ยอมรับคนไหนกันไม่เป็นกระทั่งเคยตัวทำให้ตัวเองกำเนิดแรงกดดันขึ้นแบบไม่ทันรู้ตัว พวกเราก็เลยอย ากให้ท่านทดลองปฏิเสธคนอื่นมองบ้ า ง คุณอาจจะคิดว่าการพูดคำว่า "ไม่" จะเป็นการตัดจังหวะต่างๆหรืออนาคตออกจากชีวิตคุณ แต่ว่าจริงๆแล้ว

การปฎิเสธจะเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการจัดลำดับความสำคัญของช่องทาง เพื่อให้คุณได้ใช้เวลาและก็ความสามารถของคุณไปอย่ างมีคุณภาพ กระบวนการคือให้ทดลองถามตนเองว่า


"ฉันอย ากทำมันจริงๆหรือไม่ มันสำคัญกับจุดมุ่งหมายของฉันไหม" ฉันกล่าวคำว่า "ได้" เพราะเหตุว่าทราบสึดไม่ถูกหรือเป็นเนื่องจากหน้าที่หรือเปล่า? ทดลองตอบคำถามของตนและก็ลองกล่าวว่า "ไม่" ดูบ้ า ง

7.หยุดวิพากษ์วิจารณ์แล้วก็ยอกย้อนตนเอง

การพูดแ ย่ๆกับตนเอง อาจส่งผลให้เกิดความโกรธเคือง รวมทั้งกลายเป็นความหมดหวังสุดท้าย หยุดเสียงในหัวนั้นไว้ แล้วก็เปลี่ยนมันให้เปลี่ยนเป็นพ ลั ง บวกดีมากกว่า โดยให้จดว่าแต่ว่าล่ะวัน

คุณวิภาควิจารณ์ตัวเองว่าอะไรบ้ า ง ได้แก่ ฉันมันเฮงซวยที่ทำเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วเพราะเหตุใดคุณถึงคิดอย่างนี้ ต่อจากนั้น ทดลองมีความรู้สึกว่าถ้าเกิดเพื่อนพ้องมาขอความเห็นจากคุณในแบบเดียวกัน คุณจะแนะนำเขาอย่ างไร คุณจะแก้ในสิ่งที่เขาคิดไหม หรือจะบอกจุดเด่นในตัวเขาให้เขาได้รู้ตัว ทดลองฝึกฝนแบบงี้กับตนเองก็จะช่วยได้อย่ างมาก
รับมือ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13445/