วิชาความรู้สีกันไฟ สีทนไฟ สีกันไฟโครงสร้างเหล็ก firekote s99 สีกันไฟ unique / สีทนความร้อน$$

[Shopd2]

     สีกันไฟ uniqueสีกันไฟ สีทนไฟ สีกันไฟโครงสร้างเหล็ก firekote s99 สีกันไฟ unique หรือ สีทนความร้อน ตามมาตรฐาน องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน 834 (ISO 834) รวมทั้ง เอเอสคราว เอ็ม อี 119 (ASTM E 119) ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 48 รวมทั้ง 60



ดูรายละเอียดสินค้า firekote s99 https://tdonepro.com

     ธรรมชาติของไฟ สามารถเกิดได้ทุกหนทุกแห่ง เริ่มจากเปลวเพลิงขนาดเล็กเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่ได้ภายในช่วงระยะเวลาไม่กี่วินาที เปลวเพลิงขนาดเล็กดับง่าย แม้กระนั้นเปลวเพลิงขนาดใหญ่ดับยาก เราจึงต้องจำกัดขนาดของเปลวไฟแล้วก็การแพร่กระจายของเปลวเพลิง จึงจำเป็นจะต้องมีสีกันไฟ สีทนไฟ สีกันไฟโครงสร้างเหล็ก firekote s99 สีกันไฟ uniqueเพื่อจะช่วยยืดระยะเวลาหรือชะลอการแพร่กระจายของเปลวเพลิง ทำให้มีระยะเวลาสำหรับเพื่อการเข้าช่วยเหลือหรือช่วงเวลาสำหรับในการหนีมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วยยืดเวลาเพื่อลดการสูญเสียของสินทรัพย์รวมทั้งชีวิต เมื่ออัคคีภัยเกิดขึ้นจำนวนมากกำเนิดกับองค์ประกอบตึก สำนักงาน โรงงาน คลังที่เอาไว้สำหรับเก็บสินค้า และก็ที่พักที่อาศัย ซึ่งอาคารเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีโครงสร้างเป็นหลัก

     ส่วนประกอบตึกส่วนมาก แบ่งได้ 3 ชนิด คือ

     1. โครงสร้างคอนกรีต
     2. องค์ประกอบเหล็ก
     3. องค์ประกอบไม้

     ปัจจุบันนี้นิยมสร้างอาคารด้วยโครงสร้างเหล็ก ซึ่งก่อสร้างง่าย เร็วทันใจ ส่วนอายุการใช้งาน จะต้องดูตามสิ่งแวดล้อม แล้วก็การดูแลรักษา เมื่อเกิดอัคคีภัยแล้ว กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดความเสียหายต่อชีวิต / เงิน ผลกระทบในด้านที่เสียหายคือ มีการเสียสภาพใช้งานของอาคาร ช่องทางที่จะนำอาคารที่ผ่านการเกิดไฟไหม้แล้วมาใช้งานต่ออาจมีความเสี่ยงต่อการพังทลาย ต้องทุบทิ้งแล้วผลิตขึ้นมาใหม่ อุปกรณ์ทุกหมวดหมู่ชำรุดเสียหายเมื่อได้รับความร้อนเกิดการเสียแรง (Strength) เสียความแข็งแรง (Stiffness) กำเนิดแรงอัดจากการยึดรั้ง มีการโก่งจากการยึดรั้ง ความโค้งงอของตัวอาคารที่มากขึ้นจาก Thermal gradient ตลอดความลึก เสียคงทนถาวร (Durability)

     ฉะนั้น เมื่อกำเนิดอัคคีภัยสาเหตุจากความร้อน จะมีความรุนแรงได้หลายระดับ ถ้าเกิดการได้รับความย่ำแย่นั้นประทุษร้ายถูกจุดการย่อยยับที่ร้ายแรง และก็ตรงจำพวกของสิ่งของต่างๆที่ใช้ในการก่อสร้าง เช่น

     องค์ประกอบที่เป็นเหล็กมีอุณหภูมิวิกฤติ จากความร้อนเท่ากับ 550 องศาเซลเซียส และก็เกิดการ ผิดรูปผิดร่างไป 60 % อันเนื่องมาจากความร้อน แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆอ่อนแล้วพังลงอย่างช้าๆอุณหภูมิเปลวเพลิงที่โดยประมาณ 1,200 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ ประมาณ 650 องศาเซลเซียส ก็พอเพียงที่จะทำให้ส่วนประกอบที่เป็นเหล็กนั้นเสียหายได้

     ส่วนโครงสร้างคอนกรีต ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่นิยมใช้ก่อสร้างบ้าน ที่ทำการ อาคารที่ทำการ ต่างๆคอนกรีตเมื่อได้รับความร้อนมากกว่า 300 องศาเซลเซียสขึ้นไป + ระยะเวลา ก็จะทำให้คุณลักษณะของคอนกรีตเปลี่ยนแปลงไป ดังเช่นว่า เกิดการย่อยสลายของ Hydratedparts (เนื้อคอนกรีตเสียสภาพการยึดเกาะรวมทั้งอ่อนแอ) มีการเสื่อมสภาพของมวลรวม กำเนิดความคาดคั้นเป็นจุด เกิดการร้าวฉานขนาดเล็ก แต่ว่าความย่ำแย่ที่เกิดกับส่วนประกอบอาคารที่เป็นคอนกรีต จะเกิดความเสื่อมโทรม หรือพังทลาย อย่างทันทีทันใดฯลฯ

     เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำเข้าดับเพลิงต้องตรึกตรอง จุดต้นเหตุของไฟ แบบตึก ชนิดอาคาร ระยะเวลาของการลุกไหม้ ประกอบการใคร่ครวญตัดสินใจ โดยจะต้องพึ่งคิดถึงความรุนแรงตามกลไกการวิบัติ ตึกที่ทำขึ้นมาจำต้องผ่านกฎหมายควบคุมอาคาร เพื่อควบคุมประเภท ลักษณะ เป้าประสงค์การใช้งาน ให้ถูกตามกฎหมาย จุดมุ่งหมายของข้อบังคับควบคุมตึกและก็เขตพื้นที่ควบคุมใช้บังคับเฉพาะพื้นที่ที่มีความรุ่งโรจน์รวมทั้งมีการก่อสร้างตึกแน่นหนา ซึ่งในท้องที่ใดจะประกาศให้เป็นเขตควบคุมอาคารจำเป็นต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ซึ่งกฎหมายควบคุมอาคารจะดูแลในเรื่องความมั่นคงและยั่งยืนแข็งแรง ความปลอดภัยรวมทั้งการคุ้มครองไฟไหม้ของตึกโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่ แล้วก็อาคารสาธารณะมาตรฐานกำหนดไว้ดังต่อไปนี้

     ตึกชั้นเดี่ยว อัตราการทนความร้อนไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง

     อาคารหลายชั้น อัตราการทนความร้อนไม่น้อยกว่า 1 ½ ชั่วโมง

     อาคารขนาดใหญ่ อัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง

     อาคารสูง อัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชม. (above gr.) และ 4 ชั่วโมง (under gr.)

     ส่วนโครงสร้างที่เป็นองค์ประกอบขององค์ประกอบหลักของอาคาร ก็ได้กำหนอัยี่ห้อการทนไฟไว้เหมือนกัน ถ้าหากแบ่งอัตราการทนไฟ แต่ละองค์ประกอบตึก ข้อบังคับกำหนดไว้ ดังนี้

     อัตราการทนความร้อนของส่วนประกอบตึก

     เสาที่มีความสำคัญต่อตึก 4ชั่วโมง

     พื้น 2-3 ชั่วโมง

     ระบบโครงข้อแข็ง (รวมถึงเสา / กำแพงข้างใน) 3-4 ชั่วโมง

     โครงสร้างหลัก Shaft 2 ชั่วโมง

     หลังคา 1-2 ชั่วโมง

     จะมองเห็นได้ว่า ไฟไหม้ เมื่อเกิดกับอาคารแล้ว ระยะเวลาของการลุกไหม้ มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ต่อส่วนประกอบตึก จะเห็นได้จาก เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จะเข้าทำดับเพลิงข้างในตึก จะมีการคำนวณระยะเวลา อย่างคร่าวๆตาม Fire man ruleหมายถึงองค์ประกอบเหล็กที่สำคัญต่อส่วนประกอบอาคาร หนาน้อยสุดกี่มิลลิเมตร คูณ กับ 0.8 เท่ากับ ขณะที่มีการพิบัติ ตามสูตรนี้ 0.8*ความครึ้ม (mm) = นาที

     ** ถึงอย่างนั้นก็ตาม การคาดการณ์แบบอย่างองค์ประกอบตึก ระยะเวลา และปัจจัยอื่นๆเพื่อการปฏิบัติการดับเพลิงนั้น ปลอดภัย ก็จะต้องพิจารณาถึงน้ำหนักของอาคารที่มากขึ้นจากน้ำที่ได้จากการดับเพลิง ด้วย ซึ่งยิ่งนำมาซึ่งการทำให้องค์ประกอบตึกนั้นพังทลายเร็วขึ้น **

     ระบบการปกป้องและก็หยุดอัคคีภัยในอาคารทั่วๆไป

     ตึกทั่วๆไปและก็อาคารที่ใช้ในการประชุมคน ยกตัวอย่างเช่น หอประชุม บังกะโล โรงหมอ สถานศึกษา ห้าง ห้องแถว ตึกแถว บ้าคู่แฝด อาคารที่อยู่อาศัยรวมหรืออพาร์ตเมนต์ที่มากกว่า 4 ยูนิตขึ้นไป ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจากไฟไหม้อย่างเดียวกันของจำเป็นจำเป็นต้องรู้และเข้าใจเกี่ยวกับระบบการปกป้องคุ้มครองและก็ยับยั้งไฟไหม้ในตึกทั่วๆไป คือ

     1. ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ควรจัดตั้งใน

– เรือนแถวหรือห้องแถวที่สูงไม่เกิน 2 ชั้น จำต้องติดตั้ง 1 เครื่องต่อ 1 ยูนิต แต่ว่าถ้าหาก สูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป จำเป็นต้องติดตั้งทุกชั้นในแต่ละยูนิต

– อาคารสาธารณะที่มีพื้นที่มากยิ่งกว่า 2,000 ตารางเมตร ต้องติดตั้งในทุกชั้น ของอาคาร

     2. ส่วนประกอบของระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้

     ระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ประกอบด้วยเครื่องไม้เครื่องมือ 2 ตัว คือ Detector ซึ่งมี ทั้งยังแบบระบบแจ้งเหตุอัตโนมัติและก็ระบบแจ้งเหตุที่ใช้มือ เพื่อให้กริ่งสัญญาณเตือนไฟไหม้ดำเนินการ ส่วนอุปกรณ์อีกตัวหนึ่งคือ เครื่องส่งสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ซึ่งสามารถส่งเสียงหรือสัญญาณให้ผู้ที่อยู่ในตึกได้ยินเมื่อกำเนิดไฟลุก

     3. การตำหนิดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงแบบโทรศัพท์เคลื่อนที่

     เรือนแถวหรือตึกแถวที่สูงไม่เกิน 2 ชั้น จำเป็นต้องติดตั้ง 1 เครื่องต่อ 1 ยูนิต ส่วน อาคารสาธารณะอื่นๆจำต้องจัดตั้งอย่างน้อย 1 เครื่องทุกๆ1,000 ตารางเมตร ซึ่งแต่ละเครื่องจำเป็นต้องจัดตั้งห่างกันขั้นต่ำ 45 เมตร และต้องอยู่ในตำแหน่งที่แลเห็นง่ายสะดวกต่อการรักษา

     4. ป้ายบอกชั้นและทางหนีไฟ

     ป้ายบอกตำแหน่งชั้นแล้วก็บันไดหนีไฟพร้อมไฟเร่งด่วน จำต้องจัดตั้งทุกชั้นของอาคารโดยเฉพาะอาคารสาธารณะที่มีความสูงตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป ตึกอยู่อาศัยรวมที่มีความสูงตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไปและก็ตึกอื่นๆที่มีพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร

     5. ระบบจ่ายกำลังไฟฟ้าสำรอง

     อาคารสาธารณะที่มีคนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จำเป็นมากที่จะควรมีระบบกระแสไฟฟ้าสำรอง เป็นต้นว่า แบตเตอรี่ หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไว้สำหรับกรณีเร่งด่วนที่ระบบไฟฟ้าปกติขัดข้องและต้องสามารถจ่ายกระแสไฟในกรณีรีบด่วนได้ไม่น้อยกว่า 2ชั่วโมง โดยยิ่งไปกว่านั้นจุดที่มีเครื่องหมายทางออกฉุกเฉิน ทางหนีไฟ ฟุตบาทแล้วก็ระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้

     แนวทางประพฤติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยเมื่อเกิดไฟไหม้ 10 ขั้นตอน สีกันไฟ สีทนไฟ สีกันไฟโครงสร้างเหล็ก firekote s99 สีกันไฟ unique

     ควันจากเหตุเพลิงไหม้สามารถเอาชีวิตคุณได้ ภายในเวลา 1 วินาทีเพราะเหตุว่าควันสามารถลอยสูงขึ้นไปได้ถึง 3 เมตร แล้วก็ข้างใน 1 นาที ควันสามารถลอยขึ้นไปได้สูงเท่ากับอาคาร 60 ชั้น ด้วยเหตุดังกล่าว เมื่อเกิดไฟไหม้ควันจะปกคลุมอยู่รอบๆตัวคุณอย่างรวดเร็ว ทำให้ท่านสำลักควันไฟตายก่อนที่จะเปลวไฟจะคืบคลานมาถึงตัว พวกเราจำเป็นต้องทำความเข้าใจแนวทางการกระทำตัวเมื่อกำเนิดเพลิงไหม้ 10 ขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตรวมทั้งทรัพย์สินของตัวคุณเองความปลอดภัยในตึกนั้นต้องเริ่มศึกษากันตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางเข้าไปในอาคาร โดยเริ่มจาก

     ขั้นตอนที่ 1 ก่อนเข้าพักในตึกควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าตำแหน่งบันไดหนีไฟ ทางหนีไฟ ทางออกจากตัวตึก การต่อว่าดตั้งเครื่องมือระบบ Sprinkle และอุปกรณ์อื่นๆและก็ต้องอ่านข้อแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยจากไฟไหม้ รวมทั้งการหนีไฟอย่างถี่ถ้วน

     ขั้นตอนที่ 2 ขณะอยู่ในตึกควรหาทางออกเร่งด่วนสองทางที่ใกล้หอพักตรวจทานดูว่าทางออกฉุกเฉินไม่ปิดล็อคตาย หรือมีเครื่องกีดขวางและสามารถใช้เป็นทางออกมาจากด้านในอาคารได้โดยสวัสดิภาพ ให้นับจำนวนประตูห้องโดยเริ่มจากห้องท่านสู่ทางหนีรีบด่วนทั้งสองทาง เพื่อไปถึงทางหนีฉุกเฉินได้ ถึงแม้ว่าไฟจะดับหรือปกคลุมไปด้วยควัน

     ขั้นตอนที่ 3 ก่อนไปนอนวางกุญแจห้องเช่าและก็ไฟฉายไว้ใกล้กับเตียงนอนถ้าเกิดเพลิงไหม้จะได้นำกุญแจห้องรวมทั้งไฟฉายไปด้วย อย่ามัวเสียเวลากับการเก็บข้าวของ และควรทำความเข้าใจและก็ฝึกฝนเดินภายในห้องเช่าในความมืดดำ

     ขั้นตอนที่ 4 เมื่อจะต้องเจอเหตุเพลิงไหม้หาตำแหน่งสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ เปิดสัญญาณเตือนไฟไหม้ หลังจากนั้นหนีจากตึกแล้วโทรศัพท์เรียกหน่วยดับเพลิงโดยทันที

     ขั้นตอนที่ 5 เมื่อได้ยินสัญญาณเตือนไฟไหม้ให้รีบหาทางหนีออกมาจากอาคารในทันที

     ขั้นตอนที่ 6 ถ้าหากเพลิงไหม้ในห้องเช่าให้หนีออกมาแล้วปิดประตูห้องในทันที รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดูแลตึก เพื่อโทรศัพท์แจ้งหน่วยดับไฟ

     ขั้นตอนที่ 7 หากไฟไหม้เกิดขึ้นนอกหอพักก่อนที่จะหนีออกมาให้วางมือบนประตู แม้ประตูมีความเย็นอยู่เบาๆเปิดประตูแล้วหนีไปยังทางหนีไฟรีบด่วนที่ใกล้ที่สุด

     ขั้นตอนที่ 8 หากเพลิงไหม้อยู่บริเวณใกล้ๆประตูจะมีความร้อน ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด ให้รีบโทรศัพท์เรียกหน่วยดับไฟ แล้วก็บอกกล่าวว่าท่านอยู่ที่ไหนของเพลิงไหม้ หาผ้าขนหนูแฉะๆปิดทางเข้าของควัน ปิดพัดลม รวมทั้งเครื่องปรับอากาศส่งสัญญาณอ้อนวอนที่หน้าต่าง

     ขั้นตอนที่ 9 เมื่อจำต้องเผชิญกับควันไฟที่ปกคลุมให้ใช้แนวทางคลานหนีไปทางฉุกเฉินเพราะเหตุว่าอากาศบริสุทธิ์จะอยู่ด้านล่าง (เหนือพื้นของห้อง) นำกุญแจห้องไปด้วยถ้าหมดหนทางหนีจะได้สามารถกลับเข้าห้องได้

     ขั้นตอนที่ 10 การหนีออกมาจากตัวอาคาร อย่าใช้ลิฟท์ขณะกำเนิดเพลิงไหม้และไม่ควรใช้บันไดข้างในตึกหรือบันไดเลื่อน เนื่องด้วยบันไดกลุ่มนี้ไม่สามารถคุ้มครองป้องกันควันรวมทั้งเปลวได้ ให้ใช้บันไดหนีไฟข้างในตึกเพียงแค่นั้นเพราะเหตุว่าเราไม่มีวันทราบว่าเรื่องเลวทรามจะเกิดขึ้นกับชีวิตเวลาใด พวกเราจึงไม่ควรประมาทกับชีวิตเลยสักวินาทีเดียว

     * อ้างอิงจาก หน่วยงานวิจัยและพัฒนาการป้องกันการเกิดภัย



Website: บทความ สีกันไฟ unique https://tdonepro.com