เทคนิค 7 ข้อช่วยทำให้คุณเลิกเป็นคน ขี้กังวลใจ

[Beer625]

แม้คุณเป็นคนอีกคนหนึ่งที่ถูกใจ คิดมาก เพ้อเจ้อ ขี้ไม่สบายใจ กับความประพฤติปฏิบัติไปซะทุกเรื่อง

จนถึงทำให้จะต้องอึดอัดใจอยู่บ่อยๆเรามีแนวทางมาชี้แนะที่จะช่วยให้ท่านลดความวิตก คิดมาก หรือ เพ้อเจ้อลงได้

1. สังเกตความนึกคิดของตน

ข้อสำคัญที่สุดของกระบวนการทำเป็น การปล่อยให้ความนึกคิดของคุณลอยผ่านไป

แทนที่จะไปยึดติดอยู่กับมันหรือพย าย ามที่จะหยุดคิดมัน การฝึกสมาธิแบบก้าวหน้าสติเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณ


หยุดหมกมุ่นกับเรื่องในอดีตได้ โดยให้ท่านลองสังเกตการณ์ความคิดของตนเอง


มองว่าตัวเองกำลังวิตกอยู่กับเรื่องอะไร รวมทั้ง จะไขปัญหาได้อย่ างไร แทนที่จะลงไปหมกมุ่นอยู่กับมัน

ทดลองนั่งอยู่เฉยๆแล้วพินิจความคิดของตนเองดู คุณจะรู้เลยว่าความคิดมันไม่มีขอบเขตจริงๆ

รวมทั้งเวลาที่คุณพย าย ามทำให้มันนิ่ง ก็มีแต่จะแย่ลงเท่านั้น แต่ว่าจิตใจของคุณจะสงบลงเองเมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง

และ เมื่อจิตใจของคุณสงบแล้วมันก็จะมีที่ว่างสำหรับการฟังสิ่งที่วิจิตรบรรจงยิ่งขึ้น

2. เขียนความนึกคิดของตนเอง

อีกแนวทางนึง ที่สามารถจะช่วยหยุดความนึกคิดฟุ้งซ่านของคุณ ก็คือ การระบายให้กับผู้ที่มีมุมมองแนวทางคิดไม่เหมือนกัน

ไปจากคุณได้ฟัง หรือ จะใช้แนวทางเขียนระบายความนึกคิดของตัวลงไปในกระดาษแทนก็ได้


เพราะเหตุว่า การเขียนทำให้เราคิดอย่ างเป็นระบบขึ้นมาก หากคุณเก็บความคิดพวกนั้นไว้แต่ในหัว


นอกเหนือจากมันจะไปสุมกันจนกระทั่งเป็นเทือกเขามันยังส่งผลให้คุณวนกลับมาคิดเรื่องเดิมซ้ำอยู่อย่ างนั้นไม่จบสิ้น

3. ระบุช่วงเวลาสำหรับ "การหยุดใช้สมอง"

การกำหนดเวลา "หยุดใช้ความคิด" ช่วยห้ามไม่ให้ท่านหมกมุ่นกับปัญหาอย่ างใดอย่ างหนึ่งเยอะเกินไป

ดังเช่น การไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องย ากๆข้างหลังเวลาสองทุ่มเพื่อไม่ให้มันมารบกวนเวลาเข้านอนหลับ

มีข้อเสนอว่าให้แบ่งเวลาไว้โดยประมาณ 20 นาทีต่อวัน สำหรับเพื่อการสะท้อนความคิดของตัวเอง

ภายในยี่สิบนาทีนี้ ปล่อยให้ตนเองไม่สบายใจ ใคร่ครวญ เพ้อเจ้อได้เต็มกำลังตามอยากได้ แล้วเมื่อหมดเวลา

ก็ให้เปลี่ยนไปทำสิ่งอื่นที่เป็นประโยชน์กว่า ถ้าเกิดคุณเริ่มคิดมากนอกตอนที่กำหนดไว้เมื่อไร

ก็ให้เตือนตนเองว่า ค่อยเอาเก็บไปคิดในช่วงเวลาที่กำหนดดีมากยิ่งกว่า

4. เบี่ยงเบนความนึกคิดของตนเอง

ฟังดูง่ายๆแม้กระนั้นแท้จริงการเขียนจ่อกับสองสิ่งไปพร้อมกันนี่มันย ากนะ

ทดลองออกกำลังกายหรือเล่นเกมดูเมื่อรู้ตัวว่าตนเองกำลังคิดมากเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอารมณ์แล้วก็ร่างกาย

ผู้ที่มีความชำนาญคนจำนวนไม่น้อยก็เห็นด้วยกับวิธีนี้ คือ ให้หากิจก ร ร มที่เบี่ยงเบนความสนใจของคุณ


ซึ่งจะต้องเป็นกิจก ร ร มที่ใช้อีกทั้งร่างกาย ความนึกคิด และก็ การร่วมเล่นกับผู้อื่น ดังเช่น เทนนิส หรือการเดินเล่นกับเพื่อนพ้องสักคน

5. โฟกัสที่สิ่งที่ทำเป็นในปัจจุบัน

อีกหนึ่งวิธีแก้นิสัยคิดมากก็คือ เลิกคิดแล้วลงมือทำอย่ าไปโฟกัสในสิ่งที่คุณจะต้องทำ สิ่งที่ยังมิได้ทำ หรือ

แม้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว แม้กระนั้นให้พุ่งความสนใจไปในที่สิ่งซึ่งสามารถทำเป็นในขณะนี้ก็พอเพียง

ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กขนาดไหนก็ตาม และลงมือกระทำมันซะ อย่างงี้เมื่อใดก็ตามเรากังวล

ถึงปัญหาในเรื่องใดๆก็ตามเราก็จะสามารถทำให้มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ

6. เคารพข้อคิดเห็นของตัวเอง

เหตุที่คุณยังคงคิดมากกระทั่งไม่ยอมตกลงใจส่วนหนึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะคุณไม่เชื่อว่าตนเองจะตกลงใจเลือกสิ่งที่ถูก

จงเรียนรู้ที่จะนับถือข้อคิดเห็นของตัวเองยิ่งคิดมากมากแค่ไหน คุณก็จะยิ่งลังเลในความคิดของตนมากมายแค่นั้น

7. คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจที่บกพร่องได้

คือเรื่องธรรดาที่จะเป็นห่วงว่าคุณเลือกงานไม่ถูก สมรสกับคนที่ไม่ใช่สำหรับตัวเอง หรือแม้กระทั้งขับรถกลับไปอยู่บ้านผิดทาง

แต่ความผิดพลาดก็ไม่ได้นำมาซึ่งการก่อให้เกิดหายนะเสมอ แถมยังเป็นโอกาสให้ได้เรียนรู้และก็เติบโตขึ้นด้วย

คุณไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจกับความบกพร่องเลย และ ให้เข้าใจไว้ว่าความนึกเห็นหรือความรู้ของ

คุณนั้นมันเปลี่ยนได้เสมอตามกาลเวลา แล้วคุณจะรู้สึกสงบรวมทั้งเป็นอิสระจากด้านในอย่ างแท้จริง
คิดมาก 
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13411/
คำค้นหา : วิตกกังวล