การออกแบบบ้านให้ลดการใช้พลังงาน

[Hanako5]

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแสงอาทิตย์ โดยที่จะต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มใบในความเร็วที่พอเหมาะ เพื่อลดอุณภูมิข้างนอกใกล้รอบๆบ้านแล้วก็ คุ้มครองปกป้องลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านเยอะเกินไป โดยควรจะปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกรวมทั้ง ทิศตะวันตก



2. ควรที่จะเลือกจำพวกต้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามแคว้นอาทิเช่น ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา ฯลฯ เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการดูแลรักษา เพราะว่าต้นไม้กลุ่มนี้มีความคุ้นเคยกับภาวะทำเลที่ตั้ง และก็ภูมิอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูมิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมรอบๆบริเวณบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกหญ้า จัดแต่งสวน ทำน้ำตกเลียนแบบ ฯลฯ

4. กลบดินบริเวณรอบบ้านให้สูง เพื่อให้พื้นรวมทั้งฝาผนังเล็กน้อยต่ำกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ แล้วก็ปลูกไม้พุ่มบริเวณผนังบ้าน



5. ในกรณีที่มีพื้นที่จำกัด บางครั้งอาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน รวมทั้งลดความแรงของแสงแดดที่ ส่องผิวตึก



6. ทำรางน้ำแล้วก็ท่อที่มีไว้สำหรับระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆด้านในบ้านให้ สมควร เพื่อป้องกันความชุ่มชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรือบางครั้งอาจจะทำท่อสำหรับระบายน้ำที่ได้จาก แนวทางซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. ถ้าเกิดอยากทำที่จอดรถยนต์ ควรจะทำที่จอดรถพร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาแล้วก็ฝาผนัง โดยความครึ้มของฉนวนที่ใช้ต้อง ขึ้นกับภาระหน้าที่สร้างความเย็น แม้กระนั้นจำนวนมากใช้ฉนวนที่มีความหนาราวๆ 2-3 นิ้ว (50-75 มม.) ฉนวนสำหรับหลังคารวมทั้งผนังมีหลายประเภท ดังเช่นว่า ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกทาสีผนังภายนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้สิ่งของที่มีผิวมันและกันความชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนได้ดิบได้ดี

10. สำหรับฝาผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรจะเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างชนิดบานพลิกที่สามารถควบคุมจำนวนลมได้ดียิ่งไปกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานเลื่อน

11.จัดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็นแค่นั้น โดยให้พอเพียงสำหรับเพื่อการรับแสงสว่างจากธรรมชาติ รวมทั้งควรเลี่ยงการตำหนิดตั้งด้านทิศตะวันออกรวมทั้งตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวนอนเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือแล้วก็ทิศใต้ เพราะสามารถบังแดดในตอนเที่ยงตรงและช่วง บ่าย ส่วนกันสาดแนวตั้งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกและก็ทิศตะวันตก



13. จัดตั้งผ้าม่านหรือมู่ลี่รอบๆหน้าต่างกระจก เพื่อคุ้มครองปกป้องความร้อนจากแสง อาทิตย์เข้าภายในตัวบ้าน ส่วนการต่อว่าดฟิล์มกรองแสงสว่างที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้ว่าจะคุ้มครองปกป้อง ความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ดีมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นค่าครองชีพสูงยิ่งกว่าจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่อยากได้ปรับอากาศที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองเหนือ บริเวณที่จอดรถหรือระเบียง ควรจะมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อคุ้มครองการนำความร้อนจากข้างนอกผ่านใต้พื้นห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. ติดตั้งพัดลมที่ใช้ในการระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ภายนอก

16. ทำเฉลียงยื่นพร้อมชิดกันสาดในทิศตะวันออกและทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งรับประทานอาหารว่างหรือใช้ทำอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. ทิศเหนืออยรั่วด้วยซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องจัดตั้งโคมไฟ ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่จัดแจงไว้สำหรับเดินท่อน้ำ เป็นต้น เพื่อปกป้องความ ร้อนจากภายนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. อุดรอยรั่วตามรอยต่อ ระหว่างฝาผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อคุ้มครองความ ร้อนและก็ความชุ่มชื้นจากด้านนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในกรณีที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้และชั้นที่เอาไว้สำหรับเพื่อวางของให้สมควร ไม่บังลม ไม่กีดกั้นการระบาย อากาศ และไม่บังแสง

20. จัดวางโต๊ะที่มีไว้สำหรับใช้ในการเขียนหนังสือให้หันไปในผนังด้านที่รับแสงธรรมชาติได้

21. หมั่นดูแลทำความสะอาด พรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เฉอะแฉะ เพื่อลดภาระสร้างความเย็นเพราะความร้อนซ่อนเร้น



22. แยกห้องใช้สอยโดยพิจารณาถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ ตอนเช้าอยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยแทบทั้งวันให้อยู่ทิศเหนือ ด้วยเหตุว่าจะเย็นสบายที่สุด อย่างเช่น ห้องรับแขกอยู่ในทิศเหนือ ฯลฯ

23. ควรจัดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ และจำต้องไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมเข้าและออกมาจากคอนเดนเซอร์ ในด้านด้าน เหนือของบ้านเป็นด้านที่เหมาะสมที่จะติดตั้งคอนเดนเซอร์เยอะที่สุด แต่ว่าถ้าหากไม่ สามารถจัดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางทิศใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรติดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลทำนุบำรุงสบาย และก็ใน ที่ๆไม่ส่งเสียงก่อกวนเข้ามาด้านในห้อง



25. ควรจะจัดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ในการควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ข้างในห้องปรับอากาศ ให้เหมาะสมหมายถึงไม่ควรโดนแสงอาทิตย์โดยตรง เพราะจะทำให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าบกพร่อง รวมทั้งควรจัดตั้งในรอบๆที่มีความสามารถที่จะอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายและก็ และก็สะดวกต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามอยากได้

26. ควรติดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในบริเวณที่ไม่ปรับอากาศและเปิดโล่งเตียน เช่น ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนรวมทั้งลดความชุ่มชื้นที่ปลด ปล่อยมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าพวกนี้ แต่ถ้าหากต้องจัดตั้งในห้องปิด ควรจะจำเป็นต้องติด ตั้งพัดลมที่มีไว้ระบายอากาศ เพื่อคุ้มครองป้องกันการสั่งสมความร้อนและความชื้นภายในห้อง



27. ไตร่ตรองทำครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ห้องครัวที่อยู่ ข้างในตัวบ้านควรมีการระบายความร้อนที่ดี เนื่องจากว่าห้องครัวมักประกอบด้วย อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายแบบ เป็นต้นว่า เตาอบ เตาหุง กาที่มีไว้สำหรับต้มน้ำร้อน ตู้เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปลดปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. ติดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณที่ทำงานหุงและก็อากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรมาจากด้านนอกบ้านไม่สมควรใช้อากาศ เย็นจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง

29.เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์แล้วก็เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์คุณภาพสูง นอกเหนือจากการที่จะมัธยัสถ์ พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย ได้แก่ ใช้ตู้แช่เย็นคุณภาพสูง ใช้หลอดไฟประสิทธิภาพสูง เป็นต้น

[Chanapot]

ดันๆ

[deam205]

 ดันกระทู้

[Chanapot]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Ailie662]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Chanapot]

 ดันกระทู้

[Hanako5]

 ดันกระทู้

[Hanako5]

 ดันกระทู้

[deam205]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Ailie662]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ