โรคตับแข็ง เป็นอีกหนึ่งโรคที่คนในเมืองไทยเป็นกันมาก แต่ว่าคุณจะทราบได้เช่นไรว่าโรคตับ (https://www.rophekathailand.com/post/l/hepheka/liver-disease-hepheka)แข็งช่วงแรกและระยะสุดท้ายนั้นจะสามารถอยู่ได้กี่ปี วันนี้พวกเรามีคำตอบมาให้ท่านกันแล้ว ไปดูกันเลย(https://xn--12cb2dohvt2h7af4r.com/wp-content/uploads/2020/07/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-798x800.jpg)โรคตับแข็ง ช่วงแรก
ถ้าเกิดเป็นโรคตับแข็งในช่วงแรกมักจะยังไม่ค่อยมีอาการให้สังเกต อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีแค่การเจ็บป่วยนิดหน่อย ซึ่งมีอาการท้องเฟ้อ อาการท้องอืด ร่างกายอ่อนแรงรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง ทำอะไรแค่เพียงนิดๆหน่อยๆก็มีอาการหอบให้เห็น นอกจากนั้นก็อาจจะมีอาการเบื่อข้าว คลื่นไส้อาเจียนอีกด้วย โดยหากเป็นโรคตับแข็งในระยะต้นนั้น ถ้าเกิดรักษาได้ทันก็มักไม่อันตรายถึงกับตาย เพราะฉะนั้นถ้าหากสงสัยว่ากำลังเป็นโรคนี้หรือเปล่า ควรจะรีบไปพบหมอในทันที (https://xn--12cb2dohvt2h7af4r.com/wp-content/uploads/2020/06/Pain-in-the-right-stomach-503x400.jpg)
โรคตับแข็ง ระยะสุดท้ายคนป่วยที่เป็นโรคโรคตับแข็งระยะสุดท้ายจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตั้งแต่ 5 ถึง 10 ปีแม้กระนั้นจำนวนนั้นต้องอยู่ที่คนป่วยด้วยว่ารักษาตัวเองมากมายแค่ไหน ถ้าเกิดคุณทราบดีว่าตัวเองเป็นตับแข็งแต่ว่ายังไม่เลิกดื่มสุราและไม่เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกายอาการตับแข็งที่เป็นอยู่นั้นก็จะทรุดลงอย่างชัดเจน เพราะตับไม่อาจจะฟื้นฟูตัวเองได้เหมือนดังเดิมเป็น ที่สำคัญผู้ที่เป็นโรคโรคตับแข็งต้องระมัดระวังก็คือการเกิดโรคแทรกซ้อนเพราะเหตุว่าตับเป็นตัวช่วยสำหรับในการขับสารพิษทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายปกติ เมื่อตับไม่สามารถขับสารพิษออกมาจากร่างกายได้ก็จะมีผลให้ร่างกายเกิดอาการโรคดีซ่านขึ้น ถ้าคุณพบอาการอย่างนี้แล้วให้ทำใจได้เลยว่าคุณจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้แค่เพียง 2 หรือ 5 ปีแค่นั้นการเกิด โรคตับแข็ง โดยส่วนมากจะมีต้นเหตุจากการบริโภคของตนเอง หรือเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการเป็นโรคเชื้อไวรัสตับต่างๆแล้วไม่ดูแลตนเองทำให้ตับจะต้องทำงานมากจนกระทั่งแปลงเป็นปัญหาเรื่องตับแข็งขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นคุณควรดูแลตัวเองด้วยอาหารเสริมบำรุงตับและเข้ารับการตรวจร่างกายรายปีเพื่อมองว่าร่างกายมีอะไรบกพร่องหรือไม่