(https://freelydays.com/wp-content/uploads/2023/04/6-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2-696x364.jpg)เช็ก 6 สัญญาณภัยร้าย ที่ไม่ควรมองข้าม ร้อนจัดระวัง "หมา (https://freelydays.com/13454/)แมว" เสี่ยงเป็นฮีทสโตรก ร้อนมากจนตาย
อากาศในประเทศไทยไม่ว่าฤดูไหน ปฎิเสธไม่ได้ว่ามักพบอากาศร้อนอบอ้าว หนึ่งในภัยร้ายใกล้ตัวหมายถึง"โรคลมแดด" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ฮีทสโตรก" โรคยอดฮิตที่พบได้ทั่วไปในช่วงหน้าร้อน แม้กระนั้นใช่ว่าจะเกิดกับคนเท่านั้น เนื่องจากในสัตว์เลี้ยงของเราก็เป็นโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามฮีทสโตรก เป็นสภาวะที่ร่างกายของสัตว์ไม่สามารถระบายความร้อนออกมาได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นยิ่งกว่าธรรมดา คือ สูงขึ้นมากยิ่งกว่า 41 องศาเซลเซียส ความร้อนที่มากขึ้นเรื่อยๆจะทำให้เกิดผลเสียและไม่ดีต่อแนวทางการทำงานของอวัยวะภายในต่างๆ
แถมโรคนี้ยังเกิดขึ้นได้กับสัตว์เลี้ยงทุกหมวดหมู่ โดยเฉพาะเจ้าตูบ น้องแมว เพราะธรรมดาสุนัขแล้วก็แมวจะมีต่อมเหงื่อบริเวณฝ่าเท้าแล้วก็จมูกเพียงแค่นั้น การระบายความร้อนจึงต้องอาศัยการหายใจรวมทั้งการหอบเป็นหลัก
แม้ร่างกายของพวกเขาไม่สามารถที่จะระบายความร้อนได้ทัน ก็จะเกิดภาวะฮีทสโตรกขึ้น และได้ผลให้เป็นอันตรายต่อระบบอวัยวะในร่างกายหลายๆส่วนได้ หากอาการหนักและไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันทีทันควัน อาจจำเป็นต้องเจอการสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก
แน่ๆว่าน้องๆสัตว์เลี้ยงพูดไม่ได้ "ฮีทสโตรก" จึงเป็นสิ่งที่ควรทำความเข้าใจ ถึง 6 สัญญาณอันตราย เพื่อเตรียมรับมือถ้าเกิดกำเนิดกับสัตว์เลี้ยงของเรา
1. หอบ หายใจเร็ว หายใจไม่สะดวก
2. ลิ้นสีแดงสด
3. น้ำลายหนืดเหนียว
4. อ่อนเพลีย เดินตุปัดตุเป๋
5. ม่านตาขยาย
6. ช็อก เป็นลมเป็นแล้งสลบ
วิธีรักษาเบื้องต้นพื้นฐาน หากพวกเราพิจารณาแล้วว่าสัตว์เลี้ยงของเรามีลักษณะอาการของโรคลมแดดจริง ให้พวกเรารีบช่วยเหลือพื้นฐาน ดังต่อไปนี้
1. นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาอยู่ในที่ร่ม อากาศถ่ายเท
2. นำน้ำเย็นใส่ขวด หรือน้ำแข็งใส่ถุงมาประคบรอบๆที่รอบๆ ขาหนีบ หรือใต้จั๊กกะแร้ รวมทั้งบนหัวสักพัก
3. รีบพาไปพบสัตวแพทย์ใกล้บ้านเพื่อกระทำรักษาต่อไปวิธีป้องกัน
1.อยู่ในเขตพื้นที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก
2.หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่โล่งแจ้ง
3.เตรียมน้ำให้พอเพียง
4.เช็ดตัวเพื่อระบายความร้อน
5.ตัดแต่งขน
6.มีเบาะนอนเจลเย็นสำหรับสัตว์เลี้ยง
หมา
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13454/